วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2552

Gartner: ปี 2009 ตลาดกลุ่มเมฆโตขึ้น 21%

บริษัท การ์ตเนอร์ วิเคราะห์ว่า ตลาดของการให้บริการแบบกลุ่มเมฆในปีนี้จะมีรายได้สูงกว่า 56.3 พันล้านเหรียญหรือเพิ่มขึ้น 21.3 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับรายได้ปีก่อนที่ทำไปได้ 46.4 พันล้านเหรียญ และการ์ตเนอร์ทำนายว่าปี ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) รายได้ของตลาดนี้จะเติบโตถึง 150.1 พันล้านเหรียญ ทั้งนี้ การ์ตเนอร์วิเคราะห์ว่าการเติบโตของตลาดดังกล่าว เป็นผลมาจากการที่องค์กรต่างๆต้องควบคุมงบประมาณของการติดตั้งและดำเนินงาน ระบบสารสนเทศในองค์กร และหันไปใช้บริการระบบสารสนเทศแบบออนไลน์บนกลุ่มเมฆแทน

การ์ตเนอร์วิเคราะห์ว่ากลุ่มของบริการแบบกลุ่มเมฆสำหรับการดำเนินธุรกิจ อันได้แก่ บริการโฆษณา, ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์, ระบบจัดการทรัพยากรมนุษย์, และระบบชำระเงินออนไลน์นั้น จะมีรายได้เติบโตสูงถึง 46.6 พันล้านเหรียญหรือเพิ่มขึ้น 19.8 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อน ทั้งนี้ การ์ตเนอร์เปิดเผยตัวเลขว่าในปีก่อนบริการกลุ่้มนี้กินส่วนแบ่งตลาดมากถึง 83 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะบริการโฆษณาเพียงอย่างเดีัยวก็ทำรายได้ไปกว่า 28 พันล้านเหรียญแล้ว

จากข่าวเก่า นักทำนายยักษ์ใหญ่อีกเจ้านั่นคือไอดีซี ก็เคยทำนายว่าในปี ค.ศ. 2012 บริษัทและหน่วยงานต่่างๆจะทุ่มทุนถึง 42 พันล้านเหรียญให้กับบริการแบบกลุ่มเมฆ

* บริการแบบกลุ่้มเมฆ (Cloud Services) หมายถึง บริการออนไลน์หรือแอพพลิเคชั่นที่ทำงานอยู่บนการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ (Cloud Computing)

ที่มา - BLOGNONE PCMAG.COM และ REUTERS

วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2552

ITM640 - ผลกระทบของ Web 2.0



ผลกระทบของ Web 2.0

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา คำว่า Web 2.0 ได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากในปัจจุบัน แล้วมันต่างอะไรกับเว็บที่มีแต่เดิม และเว็บเดิมคือ Web 1.0 หรือไม่ อันนี้ก็คงเป็นคำถามที่หลายๆ คนอยากได้คำตอบ อย่างไรก็ตามกระแสเกี่ยวกับ Web 2.0 ก็เป็นสิ่งที่ปลุกเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตให้กลับมาดังได้อีกรอบหลังจากยุคฟองสบู่ของดอทคอมในปี 2000
Web 2.0 ถูกพูดถึงอย่างมากในปี 2004 หลังจาก ทิม โอไรล์ลี่ย์ ผู้ก่อตั้งบริษัท O’Reily Media หรือ O’Reiley & Associates ในปัจจุบัน ได้จัดงานสัมมนา “O’Reily Media Web 2.0” เพื่อใช้อธิบายถึงวิวัฒนาการในปัจจุบันของเว็บไซต์ แม้จะยังไม่มีคำนิยามที่อธิบายถึง Web 2.0 ได้ครอบคลุมที่สุด แต่หนึ่งในหลายตัวอย่างของความแตกต่างระหว่าง Web 1.0 และ Web 2.0 คือการมุ้งเน้นที่ผู้ใช้เป็นสำคัญ 

ลักษณะและเทคโนโลยีที่แสดงถึง Web 2.0 
คำว่า Web 2.0 นั้นไม่ได้มีความหมายว่าเป็นเทคโนโลยี แต่เป็นความพยายามที่จะอธิบายของยุคหรือการวิวัฒนาการของเว็บไซด์ โดยสรุปให้เข้าใจได้ง่ายคือ

Web 1.0 – เว็บไซด์แบบ Static โดยผู้ใช้สามารถรับข้อมูลได้อย่างเดียว ข้อมูลของเว็บไซด์ปรับปรุงช้า
Web 2.0 – เว็บไซด์แบบ Dynamic โดยผู้ใช้จะเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งปัน, ปรับปรุงข้อมูลของเว็บไซด์

โครงสร้างพื้นฐานของเทคโนโลยีในยุค Web 2.0 จึงเป็นโครงสร้างที่ซับซ้อน ซึ่งประกอบด้วย server software content syndication messaging protocols standard-based browsers และ client applications ต่าง ๆ เทคนิคใหม่ ๆ มากมายถูกสร้างขึ้น และหากเว็บไซด์ใช้เทคนิคต่าง ๆ เหล่านี้ จะถูกเรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยี Web 2.0 เทคนิคเหล่านั้นประกอบด้วย 
  • ผู้ใช้สามารถใส่และเรียกใช้ข้อมูลได้อย่างง่ายและสามารถใช้แอพพลิเคชันผ่านทางเว็บเบราเซอร์ได้
  • ให้ความสำคัญกับผู้เข้าชมเว็บไซต์ โดยที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์จะมีส่วนร่วมต่อเว็บไซต์มากขึ้น ไม่ใช่แค่เข้ามาชมเว็บไซต์ที่เจ้าของเว็บจัดทำขึ้นเท่านั้น ผู้เข้าชมเว็บไซต์สามารถสร้าง content ของเว็บไซต์ขึ้นมาได้เองหรือสามารถ tag content ของเว็บไซต์ (คล้ายๆการกำหนด keyword ที่เกี่ยวข้องกับ content โดยผู้เข้าชมเว็บไซต์เป็นผู้กำหนดขึ้น) ตัวอย่างเช่น Digg, Flickr, Youtube , Wiki 
  • คุณสมบัติที่เรียกว่า mash-up ก็เป็นส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งของ Web 2.0 application นั่นก็คือการที่เราสร้าง Web application ขึ้นมาสักตัวหนึ่ง แล้วเราสามารถเปิด service ของ Web application ให้คนอื่นๆสามารถมาใช้ได้ ยกตัวอย่างเช่น การนำ Web application เกี่ยวกับระบบการซื้อขายสินค้า online ของทางบริษัทไป mash-up เข้ากับ Google maps เพื่อที่จะทำ Web application ของบริษัทมีความสามารถนอกเหนือซื้อขายสินค้า online แล้วยังสามารถคำนวณระยะทางและเวลาในการขนส่งสินค้าไปให้ลูกค้า รวมทั้งสามารถพิมพ์แผนที่เส้นทางได้ โดยที่บริษัทไม่ต้องสร้าง Application สำหรับสร้างแผนที่ขึ้นมาเองโดยเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ mash-up นั้นก็คือ Feeds, RSS, SOA, และ Web services 
  • Web 2.0 application จะมีคุณสมบัติที่เรียกว่า RIA (Rich Internet Application) นั่นคือ Web 2.0 application จะมี User Interface ที่ดียิ่งขึ้น เช่น คุณสมบัติ Drag & Drop ซึ่งใช้กันใน Desktop Application ทั่ว ๆไปก็สามารถใช้ได้บนเว็บเช่นกัน โดยเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องในการสร้าง RIA เช่น AJAX, Flash
โดยลักษณะที่เด่นชัดของ Web 2.0 นั้น จะเห็นได้ว่ามีการพัฒนาและการโต้ตอบระหว่างผู้ให้บริการ และผู้ใช้งาน แทนที่จากระบบเว็บแบบเก่า ที่เป็นลักษณะของการให้บริการอ่านอย่างเดียว โดยรวมไปถึงการรวดเร็ว และการง่ายดายของการส่งข้อมูล แทนที่แบบเก่าที่ต้องจัดการผ่านเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งบล็อกและเว็บที่ให้บริการอับโหลดภาพถูกนำมาใช้เป็นตัวอย่างของ Web 2.0 ที่ให้เห็นได้ทั่วไป ที่มีการให้บริการแสดงความคิดเห็น รวมถึงการใช้งานที่ง่าย โดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในด้านเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์แต่อย่างใด เห็นได้ว่าลักษณะของWeb 2.0 นั้นก่อให้เกิดการสร้างเนื้อหา ที่รวดเร็ว และมีการแบ่งปันข้อมูลที่ง่ายขึ้น โดยลักษณะของเว็บเปลี่ยนจากทางเน้นหนักทางด้านเทคนิค ไปในด้านข้อมูลข่าวสารแทนที่ เป็นการให้บริการทางสังคม นั่นก็คือการใส่ใจกับ Community หรือ Social มากขึ้นนั่นเอง ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ในด้านธุรกิจต่อมา

ผลกระทบของ Web 2.0 ที่มีต่อพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน 
Web 2.0 ได้ก่อให้เกิดเครือข่ายชุมชนออนไลน์แบบใหม่ (Social Network) ระหว่างผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วไป เว็บไซด์บางเว็บไซด์ให้บริการ social software หรือการติดต่อสื่อสารโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลางเพื่อสร้างชุมชนออนไลน์ขึ้น ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในชื่อ blogs และ wikis นอกจากนี้บางเว็บไซด์ได้มีการให้บริการ RSS feeds เป็นจำนวนมากภายในหน้าเว็บของตน ในขณะที่บางเว็บไซด์ได้สร้างลิงค์ที่ลิงค์ไปยังเว็บไซด์อื่น ๆชนิดเจาะลึกเข้าถึงข้อมูล 
ความสามารถในการเชื่อมโยงข้อมูลทางเว็บ การติดต่อสื่อสาร รวมไปถึงการส่งข้อความต่าง ๆ ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ที่ Web 2.0 พัฒนาขึ้น ได้ก่อให้เกิดการโยงใยทางสังคมที่แน่นแฟ้นระหว่างผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ซึ่งอาจเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ในยุคก่อนหน้านี้ 
นอกจากนี้ได้มีการใช้ Ajax ในการพัฒนาเว็บไซด์ที่สามารถทำงานคล้ายคลึงแอปพลิเคชันในเครื่องพีซี เช่น word processing spreadsheet และ slide-show presentation เป็นต้น WYSIWYG (What You See Is What You Get) และ Wiki เป็นตัวอย่างของเว็บไซด์ประเภทดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีเว็บไซด์ที่ช่วยเรื่องการจัดการโครงการ และการประสานงานต่าง ๆ อีกด้วย 

ผลกระทบของ Web 2.0 ต่อการตลาด
ปัจจุบันแนวคิดการทำการตลาดออนไลน์ โดยใช้ประโยชน์ของ Web 2.0 กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ มาตั้งแต่ปี 2005 ซึ่งเราจะเห็นว่าแต่เดิมนั้น การส่ง Email marketing , Web banner หรือการแลก Linkโฆษณา อาจจะไม่มีประสิทธิภาพและไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเพียงพอ การตลาดรุ่นใหม่ใน Web 2.0 เป็นการนำเอาพลังเครือข่ายทางสังคมออนไลน์ที่มีอยู่ มาช่วยให้เราเข้าถึงผู้คนนับล้านในโลกอินเทอร์เน็ตได้อย่างง่ายดาย และตรงกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งยังเป็นการเข้าถึงในลักษณะของการสื่อสารแบบสองทางด้วยสื่อที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ, ข้อความเสียง, วีดีโอ,  Blogs, Wikis และ Feeds (RSS) เป็นต้น

ตัวอย่างการสื่อทางการตลาดที่นิยมใช้ในยุค Web 2.0 เช่น 
  1. Feed Marketing กำลังจะเข้ามาทดแทนการตลาดแบบเดิมๆ คือ E-Mail Marketing นั่นเอง เพราะการตลาดโดยใช้ E-Mail นั้น มีการส่งเมล์ที่ผู้ใช้ไม่ต้องการมาให้เยอะ ที่เราๆรู้ๆกันคือ Spam Mail จนก่อให้เกิดความรำคาญใจแก่ผู้รับ  Feed marketing สามารถส่งข้อมูล โดยตรงถึงผู้ใช้ทันทีที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ตามที่ผู้ใช้เรียกข้อมูลนั้นๆ ผ่านซอร์ฟแวร์หรือผู้ให้บริการอ่าน Feed ที่เรียกว่า RSS Reader หรือ Feed Reader อาทิเช่น FeedForAll, Bloglines ตามลำดับ การกระจายข่าวสาร ทั้งภาพ เสียง และข้อความ ผ่าน Feed ส่งตรงถึงผู้ใช้ทันที เป็นข้อได้เปรียบหลักๆ อยู่แล้ว อีกทั้งเห็นผลตอบรับกลับมาด้วย (RSS Comment) ยิ่งเพิ่มมูลค่าทางการตลาดของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ขึ้นไปอีก
  2. Video Marketing เป็นการโฆษณาด้วยการ Share วีดีโอออนไลน์ ทำให้เกิดรูปแบบใหม่ของการเผยแพร่วีดีโอโฆษณาซึ่งแตกต่างจากการโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์แบบดั้งเดิมอยู่หลายประการ เช่น เป็นช่องทางการเผยแพร่ไม่จำกัด สามารถลดต้นทุนในการประชาสัมพันธ์ เพราะไม่จำเป็นต้องจ้าง Agency หรือเสียค่าโฆษณาผ่านทางทีวี วิทยุ อีกทั้งยังสามารถเช็คผลความรู้สึกของผู้ชมผ่านทางความคิดเห็น หรือคะแนนโหวตต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ตัวอย่างเว็บที่ให้บริการเช่น Youtube (www.youtube.com) , Google Video หรือ เว็บในบ้านเราอย่าง www.seedang.com
ผลกระทบของ Web 2.0 ต่อการโฆษณา
ในอดีตการโฆษณาสินค้าต่าง ๆ นั้นผู้ขายอาจจะทำการสร้าง เว็บไซต์ของตัวเองขึ้นมาและทำการโฆษณาสินค้าที่ตัวเองต้องการขายหรือบริการที่เกี่ยวข้อง โดยชื่อของเว็บไซต์ (Domain name) ก็จะเป็นการตั้งชื่อเพื่อสร้างให้เกิดการจดจำไปถึงตัวสินค้าหรืออาจจะเป็นชื่อเดี่ยวกับบริษัทไปเลยก็ได้ แต่ในปัจจุบัน Web 2.0 นั้นจะมุ่งเน้นไปที่การโฆษณาและประชาสัมพันธ์แบบปากต่อปาก (Word-of-mouth) เป็นการสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงระหว่างคนที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกันผ่านทาง Social networking ซึ่งแนวคิดของ Social Networking นั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความร่วมมือกัน การแบ่งปัน การแลกเปลี่ยนความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร ความบันเทิง เป็นเครือข่ายระหว่างหน่วยเล็ก ๆ ที่เชื่อมโยงกันจนเกิดเป็นสังคมออนไลน์ขนาดใหญ่ ที่ได้เปลี่ยนวิถีทางในการเปลี่ยนแปลงโลกของเรา และเราก็สามารถนำ Social Networking มาสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจของเราได้อีกด้วย
การทำโฆษณาผ่านทาง social networking นั้นช่วยให้องค์กรสามารถเข้าใกล้ลูกค้าของตน รวมถึงเพิ่มโอกาสและความถี่ในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้ามากยิ่งขึ้น เว็บไซด์ social networking ไม่เพียงแต่ช่วยให้คนเราสามารถติดต่อสื่อสารกันได้แล้ว ยังสามารถแบ่งปันเรื่องราวต่าง ๆ ระหว่างกัน เช่น เพลง รูปถ่าย และวิดีโอ เป็นต้น ดังนั้น เว็บไซด์ social networking จึงเป็นช่องทางที่ดีที่บริษัทจะเข้าไปทำการโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการของตนโดยที่ไม่ต้องเสียงบประมาณในการซื้อสื่อโฆษณาแม้แต่น้อย       
นอกจากนี้องค์กรสามารถเพิ่มฐานลูกค้าในต่างประเทศได้ โดยการที่องค์กรนั้นไปเข้าร่วมใน community ของธุรกิจในท้องถิ่น วิธีการนี้จะช่วยให้องค์กรสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าท้องถิ่นได้ทั้งแบบ B to C และแบบ B to B
องค์กรไม่ต้องเสียต้นทุนในการโฆษณาในสื่ออื่น ๆ ที่มีราคาแพง ซึ่งการโฆษณาผ่านทางเว็บไซด์ social networking นั้นช่วยให้องค์กรสามารถทำการโฆษณาและประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการ หรือแม้กระทั่งประชาสัมพันธ์ภาพพจน์และตราสินค้าขององค์กรเองให้ลูกค้าทั่วโลกได้รับรู้ก็สามารถกระทำได้ตลอดเวลา

จาก Web 1.0 สู่ Web 2.0 และ Web 3.0
นับเป็นเวลานับสิบปีกว่าๆ ของ World Wide Web หรือยุคของ Web 1.0 ในปี 1992 ซึ่งเป็นยุคของการค้นหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตเข้าสู่ Web 2.0 ในปี 2004 – 2005 ยุคของเครือข่ายสังคม ในการแบ่งปันข้อมูล ซึ่งส่งผลมากมายทั้งการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ใช้ รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงในการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณา การตลาด การรับรู้ความต้องการของลูกค้า หรือการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ทำให้ในปัจจุบันข้อมูลในอินเตอร์เน็ต รวมทั้งปริมาณเครือข่ายสังคม เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากอย่างรวดเร็ว จึงเป็นที่คาดหมายกันว่า แม้ว่ายุคของ Web 2.0 จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากทั้งในโลกของอินเตอร์เน็ตและการทำธุรกิจในปัจจุบัน แต่ปัญหาของปริมาณข้อมูลที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จะทำให้ยุคของ Web 3.0 มาถึงในเวลาไม่นาน ซึ่งเป็นยุคของการจัดการข้อมูลที่มีความซับซ้อนและหลากหลาย เพื่อให้ค้นหา รวบรวม ได้ง่ายและแม่นยำมากขึ้น รวมทั้งยังเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จาก Web 3.0 ได้ถูกเริ่มพูดถึงตั้งแต่ปี 2006 และถูกคาดว่าในปี 2010 เราจะได้เริ่มเห็นการให้บริการที่เป็น Web 3.0 มากขึ้น
 
บรรณานุกรม


ITM640 - Cloud Computing

Cloud Computing – การประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ


                ปัจจุบัน Cloud Computing หรือการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ กำลังเป็นกระแสที่ได้รับการพูดถึงเป็นอย่างมาก โดยนิตยสาร eWeek ได้จัด Cloud Computing เป็น 1 ใน 5 ของเทคโนโลยีที่ต้องจับตาในปี 2009 ซึ่ง 5 เทคโนโลยีนี้ได้แก่ Cloud Computing, Virtualization, Notebook/Netbook Adoption, Open Source Software และ Online Social Networking

นอกจากนี้ Gartner ได้กล่าวในงาน Gartner Symposium/ITxpo เมื่อเดือนตุลาคม 2008 ผ่านมาว่า 10 เทคโนโลยีที่จะมีบทบาทสำคัญสำหรับการวางกลยุทธ์ในปี 2009 คือ Virtualization, Cloud Computing, Servers — Beyond Blades, Web-Oriented Architectures, EnterpriseMashups, Specialized Systems, Social Software and Social Networking, Unified Communications, Business Intelligence และ Green IT ซึ่ง Cloud Computing ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย

เหตุที่ Cloud Computing ได้รับการพูดถึงเป็นอย่างมากเพราะในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจขาลงเช่นในปัจจุบัน Cloud Computing ช่วยลดการลงทุนในการทำธุรกิจโดยเปลี่ยนจากการลงทุนเป็นไปเช่าใช้ระบบสารสนเทศจากผู้ให้บริการแทน ทำให้องค์กรขนดเล็กสามารถได้ใช้ระบบสารสนเทศได้เช่นเดียวกับองค์กรขนาดใหญ่ และนอกจากนี้ผู้ให้บริการยังมีผู้เชี่ยวชาญดูแลระบบตลอดเวลา อีกทั้งยังอาจจะมีบริการที่หลากหลาย โดยผู้ใช้สามารถเลือกใช้ตามความต้องการ และจ่ายค่าบริการตามการใช้งานจริงได้

ด้วยความสามารถที่ผู้ใช้บริการสามารถจ่ายค่าบริการตามที่ตนเองใช้งานนั้น ยังมีผลให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกในการปรับขนาดลดหรือขยายการให้บริการ เช่นบริการเช่า Server ของ Amazon EC2 ผู้ใช้สามารถกำหนดรายละเอียดของ Server ตามความต้องการของ Application ที่ผู้ใช้บริการจะนำไปใช้ และยังสามารถปรับเปลี่ยนรายละเอียดภายหลังหากความต้องการเปลี่ยนไปได้ทันที เปรียบเทียบกับการลงทุน Server เองที่มีความยุ่งยากมากกว่าในการขยายระบบไม่ว่าจะเป็นการ Upgrade อุปกรณ์บางส่วนหรือการเปลี่ยนอุปกรณ์ทั้งหมด

นอกจากวิกฤตเศรษฐกิจขาลง ปัจจุบันยังมีวิกฤตราคาพลังงานและกระแสภาวะโลกร้อนหรือความรับผิดชอบต่อสภาพแวดล้อม มีการวิจัยออกมาว่า Server ส่วนใหญ่ที่เปิดทำงานตลอด 24 ชั่วโมงนั้น มีการใช้งานทรัพยากรของระบบเพียง 10-20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งหากเปลี่ยนไปใช้บริการจากผู้ให้บริการ ทรัพยากรของระบบจะถูกนำมารวมกัน และถูกจัดสรรอย่างมีระบบ ทำให้การใช้พลังงานนั้นลดลงไปด้วย

 

ความหมายของ Cloud Computing

คำว่า Cloud Computing เป็นคำที่เกิดขึ้นในวงการ ICT ประมาณปี 2007 โดยความหมายของ Cloud Computing นั้น เนื่องจากเป็นคำที่ไม่ได้เกิดจากองค์กรหรือหน่วยงานที่ออกมาตรฐานใดๆ ทำให้มีการนิยามไปแตกต่างกัน เช่น

·        Gartner กล่าวว่า  Cloud Computing คือ แนวทางการประมวลผลที่พลังของโครงสร้างทางไอทีขนาดใหญ่ที่ขยายตัวได้ถูกนำ เสนอยังลูกค้าภายนอกจำนวนมหาศาลในรูปแบบของบริการ

·        Forrester Research กล่าวว่า Cloud Computing คือ กลุ่มของโครงสร้างพื้นฐานที่ถูกบริหารจัดการและขยายตัวได้อย่างมาก ซึ่งมีขีดความสามารถในการรองรับโปรแกรมประยุกต์ต่างๆของผู้ใช้และเก็บค่า บริการตามการใช้งาน


ภาพจาก Forrester Research

แต่โดยสรุปแล้ว Cloud Computing นั้นมาจากคำว่า Cloud ซึ่งหมายถึงสัญลักษณ์แทน Internet และ Computing หรือการประมวลผล เมื่อนำคำว่า Cloud และ Computing มารวมกันก็คือ การประมวลผลผ่าน Network หรือ Internet โดยที่ผู้ให้บริการจะจัดเตรียมทรัพยากรสำหรับการประมวลผลและการจัดการ ผู้ใช้บริการเพียงเข้าไปซื้อหรือเช่าใช้บริการเท่าที่ต้องการใช้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องการจัดการ ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการขยายตัวของระบบ, ความเสถียรภาพของระบบ หรืออื่นๆ

บริษัท Dell ได้ขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า "Cloud Computing" ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2007 เพื่อขอสิทธิ์เป็นเจ้าของคำว่า "Cloud Computing" สำหรับใช้กับผลิตภัณฑ์ของ Dell ทั้งที่เป็นฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์รวมไปถึงบริการทางด้านสารสนเทศ แต่ในเดือนตุลาคม 2008 สำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าแห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. Patent and Trademark Office) ไม่อนุญาตโดยให้เหตุผลว่าคำว่า "Cloud Computing" เป็นคำศัพท์สามัญทั่วไปที่สามารถใช้กับบริการและผลิตภัณฑ์ใดๆก็ได้ที่ถูกพัฒนาเพื่อใช้กับงานสารสนเทศ

การพัฒนาสู่ Cloud Computing

กลางทศวรรษ  1990: Grid Computing

คือวิธีการประมวลผลที่เกิดจากการแชร์ทรัพยากร (อย่างเช่น CPU สำหรับการประมวลผล) ระหว่างองค์กรหรือหน่วยงานที่ใช้นโยบายแตกต่างกันไป (คนละบริษัทหรือคนละแผนก) อย่างเช่น องค์กร A กับองค์กร B ต้องการแชร์คอมพิวเตอร์ส่วนหนึ่งเพื่อประมวลผลโปรแกรมหรือระบบงานเดียวกัน เมื่อองค์กรที่แตกต่างแชร์ทรัพยากรร่วมกันย่อมมีนโยบายที่ไม่เหมือนกัน เช่นการกำหนดสิทธิและขอบเขตในการใช้ทรัพยากรที่แตกต่างกัน เป็นต้น และจำเป็นต้องอาศัยระบบรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ

ปลายทศวรรษ 1990: Utility Computing

เป็นหลักการแชร์ทรัพยากรที่คล้ายกับGrid Computing เพียงแต่ว่าทรัพยากรจะถูกมองเสมือนว่าเป็นบริการสาธารณูปโภค (เช่น ไฟฟ้า น้ำประปา และโทรศัพท์) โดยบริการเหล่านี้ ผู้ใช้สามารถจ่ายเงินเพื่อใช้งานได้ตามที่ต้องการ และเวลาจ่ายเงิน ก็จ่ายตามจำนวนหรือช่วงเวลาที่ใช้งานจริง

ปี 2000: Software as a Service (SaaS)

เป็นรูปแบบการให้บริการซอฟต์แวร์หรือ Application บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่ออนไลน์บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตใช้บริการซอฟต์แวร์เหล่านี้ ได้โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ไว้ที่หน่วยงานหรือคอมพิวเตอร์ของ ลูกค้า โดย SaaS เป็นหลักการที่ตรงกันข้ามกับ On-premise software อันเป็นการติดตั้งซอฟต์แวร์ไว้ที่ทำงานหรือคอมพิวเตอร์ของลูกค้า

ปี 2007-2008: Cloud Computing

เป็นรูปแบบของการเช่าใช้บริการทรัพยากรต่างๆจากผู้ให้บริการผ่าน Internet โดยจ่ายตามการใช้งาน


ภาพ Trends การค้นหาคำว่า Cloud Computing ใน Google จากบริการ Google Trends http://www.google.com/trends?q=Cloud+Computing&ctab=0&geo=all&date=all&sort=0

 

สถาปัตยกรรม

โครงสร้างของระบบ Cloud Computing นั้นแตกต่างกันไปตามผู้ให้บริการแต่ละที่ โดยส่วนใหญ่นั้นประกอบด้วย

1.        Data Center ที่เชื่อถือได้ในความสามารถในการให้บริการ และอาจจะมีได้มากกว่าหนึ่งแห่ง

2.        Server จำนวนมากที่ทำงานร่วมกันด้วยการจัดการเทคโนโลยี Virtualization หรือเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์แบบเสมือน และ Grid Computing

โดยบริการที่ผู้ให้บริการนั้นจะสามารถเข้าถึงได้จากที่ใดก็ได้ที่สามารถเข้าถึง Internet ได้ โดยมีจุดให้บริการเพียงหนึ่งจุดที่ผู้ใช้สามารถเข้าถึงทรัพยากรทั้งหมดตามการให้บริการ ซึ่งทำให้ง่ายต่อการใช้งาน

 

ประเภทของ Cloud Computing

                บริการที่เกิดขึ้นใน Cloud Computing นั้นแบ่งออกได้เป็นหลายกลุ่ม แล้วแต่การจำกัดความ แต่พอจะแบ่งได้ดังนี้

1.        PaaS (Platform as a Service) , Cloud Platform

คือการให้บริการแบบพร้อมใช้งาน (OS + Database + Web Server) ที่ผู้ใช้สามารถปรับแต่งได้ไม่มาก โดยผู้ใช้บริการเพียงพัฒนาโปรแกรมผ่าน API ที่ผู้ให้บริการจัดหามาให้

ตัวอย่างบริการในกลุ่มนี้เช่น Google App Engine, IBM IT Factory, Microsoft Windows Azure

2.        SaaS (Software as a Service) , Software+Services (S+S)

คือการให้บริการ Software ผ่าน Internet โดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องลง Software เพิ่มบนคอมพิวเตอร์ของตน และการประมวลผลจะเกิดขึ้นที่ Server และส่งผลลัพธ์มาให้ผู้ใช้บริการ แต่ Microsoft ได้ออกSoftware+Services โดยมีการประมวลผลบางส่วนที่คอมพิวเตอร์ และที่เหลือส่งไปประมวลผลที่ Server แทน เพื่อเพิ่มความเร็วในการใช้งาน

ตัวอย่างบริการในกลุ่มนี้เช่น Gmail, Google Apps, Microsoft SQL Data Services (SDS), Salesforce

3.        IaaS (Infrastructure as a Service), HaaS (Hardware as a Service)

คือการให้บริการ Infrastructure ผ่าน Internet โดยอาจจะแบ่งย่อยได้ 2 กลุ่มคือ

a.        Computing

การจำลองเครื่อง Computer โดยผู้ใช้บริการสามารถกำหนดรายละเอียด Spec ที่ต้องการเองได้

ตัวอย่างบริการในกลุ่มนี้เช่น Amazon EC2, GoGrid, DELL DCS, IBM Blue Cloud

b.       Storage / Cloud Storage / dSaaS (data-Storage as a Service)

คือการให้บริการพื้นที่สำหรับเก็บข้อมูลผ่าน Internet

ตัวอย่างบริการในกลุ่มนี้เช่น Amazon S3, Apple’s MobileMe, Symantec’s SwapDrive, Humyo, XDrive


ภาพจาก http://www.productionscale.com/home/2008/4/24/cloud-computing-get-your-head-in-the-clouds.html

 

ปัญหาของ Cloud Computing

ปัญหาหลักที่มักจะพบในเรื่อง Cloud Computing คือ

1.        Security

เนื่องจากการที่จะต้องเอาข้อมูลไปฝากไว้กับผู้ให้บริการซึ่งอยู่บน Internet ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายทำให้ผู้ใช้บริการมองว่ามีความเสี่ยงมากกว่าใช้ Infrastructure ของตนเอง จึงเป็นหน้าที่ของผู้ให้บริการที่จะต้องสร้างความเชื่อมั่นในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลให้แก่ผู้ใช้บริการ

2.        Internet Bandwidth

เนื่องจาก Cloud Computing คือการประมวลผลผ่าน Internet ทำให้ Bandwidth และ Latency ส่งผลต่อความเร็วในการใช้งาน Cloud Computing ไปด้วย ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้บริการต้องมีการขยาย Bandwidth และควบคุม Latency เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อการใช้งานด้วย

 

Cloud Computing ในประเทศไทย

                ปัจจุบันในประเทศไทยได้มีนักพัฒนาหลายคนได้พัฒนาระบบบน Cloud Computing แล้วซึ่งส่วนมากเป็น Application ที่ใช้สำหรับคนทั่วโลก ไม่ได้เน้นเฉพาะคนไทยเป็นหลัก โดยปัญหาหลักคือ Bandwidth ของไทยที่ไปต่างประเทศนั้นน้อยกว่า Bandwidth ในประเทศรวมทั้งราคา Bandwidth ต่างประเทศแพงกว่า Bandwidth ในประเทศหลายเท่า ดังนั้นผู้ให้บริการประเภท Web Service ที่มีลูกค้าเป็นคนไทยจึงยังไม่สนใจใช้บริการ Cloud Computing จากต่างประเทศ

                ส่วนการให้บริการ Cloud Computing ในไทย ปัจจุบันยังไม่มีการให้บริการประเภทนี้ แต่มีหลายองค์กรที่เริ่มศึกษาและเริ่มนำมาใช้องค์กรก่อน หรือเรียกได้ว่าเป็น Private Cloud เช่น เครือซีพี โดย คุณพูนลาภ ชัชวาลโฆษิต ที่ปรึกษาอาวุโสของซีพี ได้ให้ข่าวกับทางหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ว่า ในปี 2009 กลุ่มบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) วางแผนศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาที่จะให้บริการ IT แบบพร้อมใช้งานทันที โดยใช้ Cloud Computing ตัวอย่างเช่น การจัดเก็บข้อมูล (Storage Infrastructure) ซึ่งไม่สามารถขยายได้เร็วตามที่ผู้ใช้ต้องการ เป็นต้น


บรรณานุกรม

 

http://en.wikipedia.org/wiki/Cloud_computing

http://www.eweek.com/c/a/Midmarket/Five-Tech-Trends-to-Watch-in-2009/

http://www.eweek.com/c/a/IT-Infrastructure/Dell-Cloud-Computing-Trademark-Rejected/

http://www.zdnetasia.com/news/business/0,39044229,62047187,00.htm

http://www.gartner.com/it/page.jsp?id=777212

http://www.bangkokpost.com/tech/technews/9285/cp-to-implement-cloud-computing

http://www.google.com/trends?q=Cloud+Computing&ctab=0&geo=all&date=all&sort=0

http://www.byteandswitch.com/document.asp?doc_id=162627&WT.svl=news2_2

http://javaboom.wordpress.com/

http://msdn.microsoft.com/en-us/architecture/aa699384.aspx

http://www.ibm.com/developerworks/linux/library/l-cloud-computing/index.html

http://www.bangkokbiznews.com/2008/08/07/news_283281.php

http://blog.bzinsight.net/saas-vs-cloud-definition/

http://lib.blognone.com/Cloud_Computing

http://www.blognone.com/

http://www.inox.co.th/th/articles/faqs#q08

http://www-03.ibm.com/press/us/en/pressrelease/22613.wss

http://sugree.com/node/322

http://www.joyeur.com/2008/05/06/what-is-cloud-computing

http://www.productionscale.com/home/2008/4/24/cloud-computing-get-your-head-in-the-clouds.html

ประวัติอาจารย์ พ.อ.รศ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ

อาจารย์ผู้สอน
พ.อ.รศ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ
Email: settapong_m(at)hotmail.com
Tel: +66 (0) 8-1870-9621

การศึกษา
2537 -2543 ปริญญาเอกด้านวิศวกรรมสื่อสารและโทรคมนาคม
Ph.D. in Telecommunication Engineering
จาก State University System of Florida (Florida Atlantic University), USA.
2537-2538 ปริญญาโทด้านวิศวกรรมสื่อสารและโทรคมนาคม (ระบบสื่อสารเคลื่อนที่และเซลลูล่า)
MS in EE (Mobile Communication Systems)
จาก The George Washington University, Washington DC, USA.
2534-2535 ปริญญาโทด้านวิศวกรรมไฟฟ้า (Computer Communication Network)
MS in EE (Computer Communication Network)
จาก Georgia Institute of Technology, Atlanta, Georgia, USA.
2528-2533 ปริญญาตรีด้านวิศวกรรมไฟฟ้าสื่อสารโทรคมนาคม (เกียรตินิยมเหรียญทอง)
BS in EE (Telecommunications) จาก โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 26, นักเรียนนายร้อย จปร. รุ่น 37
หลักสูตรที่สำคัญ 
2543 หลักสูตรอบรม Performing Evaluations Involving Radiated Electromagnetic
Interference from Electromagnetic Interference Laboratory (EMI R&D LAB Corp.), Boca Raton,
Florida, USA.
2544 หลักสูตรอบรมกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ
เพื่อดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาสมทบศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง
หลักสูตรทางทหาร
2531 หลักสูตร Airborne; Special Force Center of the Royal Thai Army
2531 หลักสูตร Airborne; Military operation with the Royal Belgian Armed Forces
2532 หลักสูตร Ranger; Special Force Center of the Royal Thai Army
2549 หลักสูตร เสนาธิการทหารบก (College of General Staff and Command)
2551 หลักสูตร Defense Resource Management Course, Naval Postgraduate School, U.S. Navy,
Monterey, CA, USA
หลักสูตร Streamlining Government Through Outsourcing Course, Naval Postgraduate School,
U.S. Navy, Monterey, CA, USA
หลักสูตร Counter Terrorism Fellowship Program; Joint and Combined Warfighting Course,
National Defense University, USA

ตำแหน่งและหน้าที่ปัจจุบัน
- นายทหารฝ่ายเสนาธิการ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด กองบัญชาการกองทัพไทย
- อาจารย์พิเศษภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
- คณะอนุกรรมการบริหารโปรแกรมเทคโนโลยีเพื่อความมั่นคง (NECTEC)
- Associate Professor of Business School, Touro University International, USA. (Accredited Internet Distance Learning University)
- Assistant Professor, American University of London, Information Technology South East Asia
- Adjunct Professor, Southern New Hampshire University, USA
ตำแหน่งและหน้าที่สำคัญในอดีต
- เลขานุการและที่ปรึกษา ประธานกรรมการ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)
- คณะกรรมการกำกับดูแล การดำเนินงานและโครงการของ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)
- คณะอนุกรรมาธิการ ทรัพยากรน้ำ ในคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สนช.
- ผู้พิพากษาสมทบศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง
- ที่ปรึกษาและคณะทำงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน
- คณะกรรมการร่างหลักเกณฑ์ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมผ่านดาวเทียมสื่อสาร และโครงข่ายสถานีวิทยุคมนาคมภาคพื้นดิน (คำสั่ง กทช. 22/2548)
- Adjunct Professor, School of Information Technology, Southern Cross University, Australia
- Adjunct Professor, University of Canberra, AU. (Cooperation with Narasuan University, Thailand)
- ที่ปรึกษาคณะกรรมการพัฒนาระบบงานด้านเทคโนยีสารสนเทศกองทัพบก
- CIO Board สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน
ผู้เชี่ยวชาญพิจารณาผลงานวิจัย (Editorial Board and Reviewer)
1. Interdisciplinary Journal of Information, Knowledge, & Management (www.ijikm.org)
2. International Journal of Applied Management and Technology (www.ijamt.org)
3. The Electronic Journal on Information Systems in Developing Countries (www.ejisdc.org/ojs/)
4. Journal of Information Technology Education (www.jite.org)
5. International Journal of Emerging Discipline (http://inform.nu/)
6. The International Journal of Education and Development using Information and Communication Technology (IJEDICT) (http://ijedict.dec.uwi.edu/index.php)
7. Information Science Journal
8. Journal of Digital Information Management (www.dirf.org/jdim)
9. Journal of Online Business
10. Journal of Information, Computer, Telecommunication and Media Management (JICTM2)
11. ISCIT-2001: International Symposium on Communication and Information Technology
12. ISCIT-2002: International Symposium on Communication and Information Technology
13. ISCAS-2003: The International Symposium on Circuits and Systems
14. Rangsit Business Review: Rangsit University
15. IBIMA 2005 International Conference on Information Management in Modern Enterprise, 5-7 July 2006, Lisbon, Portugal.
16. NCEB 2005 National Conference on e-Business, Thailand
17. The 5th IBIMA conference on the Internet and information technology in modern organizations, 13-15 Dec. 2005, Cairo, Egypt.
18. The 6th IBIMA conference on managing information in the digital economy, 19-21 June 2006, Bonn, Germany
19. The 7th IBIMA Conference Internet & Information Systems in the Digital Age, 14-16 Dec. 2006, Brescia, Italy
20. The 8th IBIMA conference on Information Management in the Networked Economy, 20-22 June 2007, Dublin, Ireland
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญ 
- ผู้เชี่ยวชาญเพื่อพิจารณาข้อเสนอโครงการวิจัย พัฒนาและวิศวกรรม ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC); (ที่ วท. 5404.0501/2674)
- ผู้เชี่ยวชาญเพื่อพิจารณาข้อเสนอโครงการวิจัยและพัฒนา กระทรวงกลาโหม
- คณะอนุกรรมการ การประชาสัมพันธ์ สื่อทางอินเทอร์เน็ต ศาลยุติธรรม พ.ศ.2546-2548
- คณะทำงานกำหนดคุณลักษณะเฉพาะเครื่องคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่าย และกำหนดขอบเขตการจ้างที่ปรึกษาในการออกแบบและพัฒนาระบบงาน สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน
- คณะกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (คำสั่ง สตง.ที่ 56/2548)
- คณะอนุกรรมการปรับปรุงระบบข้อมูลสารสนเทศ (คำสั่ง คตง.ที่ 4/2548 )
- ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาหามาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของเกมส์คอมพิวเตอร์ (ออนไลน์) ในสภาผู้แทนราษฎร (สภาผู้แทนราษฎร ที่ 4278/2548)
- คณะกรรมการร่างหลักเกณฑ์ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมผ่านดาวเทียมสื่อสาร และโครงข่าย สถานีวิทยุคมนาคมภาคพื้นดิน (คำสั่ง กทช. 22/2548)
- คณะกรรมการกำกับดูแล การดำเนินงานและโครงการของ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)
- Visiting Researcher (GIS TV5 Project Coordinator): Asian Center for Research on Remote Sensing (ACRoRS); Asian Institute of Technology
- กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อพิจารณาหลักสูตร บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาการจัดการธุรกิจโทรคมนาคม ปี 2547 บัณฑิตวิทยาลัยการจัดการและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
- คณะกรรมการตัดสินงานมหกรรมประกวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 4 (The Fourth Thailand ICT Contest Festival), 10-12 ก.พ. 48
- คณะอนุกรรมการ การประชาสัมพันธ์ สื่อทางอินเทอร์เน็ต ศาลยุติธรรม พ.ศ.2546-2548
- กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อพิจารณาหลักสูตร วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม (MS. in ICT) ปี 2548 บัณฑิตวิทยาลัย Internet Distance Learning มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
- กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อพิจารณาหลักสูตร วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิศวกรรมซอฟท์แวร์ (MS. in SWE) ปี 2548 บัณฑิตวิทยาลัย Internet Distance Learning มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
- กรรมการพัฒนาหลักสูตร วิทยาศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต (Ph.D.) สาขา Computer Information Systems และ Computer and Engineering Management มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
- กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิกำกับมาตรฐานวิชาการ หลักสูตรวิทยาศาสตร์บัณฑิต สาขาคอมพิวเตอร์เกมส์มัลติมีเดีย มหาวิทยาลัยรังสิต (2547 - ปัจจุบัน)
- กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิกำกับมาตรฐานวิชาการ หลักสูตรวิทยาศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยรังสิต (2547 - ปัจจุบัน)
- กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิกำกับมาตรฐานวิชาการ หลักสูตรวิทยาศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยรังสิต (2549 - ปัจจุบัน)
- คณะกรรมการโครงการ Keep Walking Award บริษัท ริชมอนเด้ บางกอก จำกัด รอบชิงชนะเลิศ วันที่ 26 มิถุนายน 2548
- Editor (Telecommunication Laws & Policies): Journal of Information, Computer, Telecommunication and Media Management (JICTM2) ,บัณฑิตวิทยาลัยการจัดการและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
- คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญ พิจารณาดุษฎีนิพนธ์ มหาวิทยาลัยราชภัชฏ์ สวนดุสิต 2548
- คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญพิจารณางานวิชาการและผลงานวิจัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต 2547-ปัจจุบัน
- คณะทำงานกำหนดคุณลักษณะเฉพาะเครื่องคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่าย และกำหนดขอบเขตการจ้างที่ปรึกษาในการออกแบบและพัฒนาระบบงาน สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ปี 2548
- คณะกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (คำสั่ง สตง.ที่ 56/2548)
- คณะอนุกรรมการปรับปรุงระบบข้อมูลสารสนเทศ (คำสั่ง คตง.ที่ 4/2548)
- ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาหามาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของเกมส์คอมพิวเตอร์ (ออนไลน์) ในสภาผู้แทนราษฎร (สภาผู้แทนราษฎร ที่ 4278/2548)
- คณะอนุกรรมาธิการ ทรัพยากรน้ำ ในคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สนช. ปี 2550

วิทยากร 
- หัวข้อการประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อกำหนดกลยุทธ์เชิงธุรกิจ:โครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้บริหาร หลักสูตร Mini MBA; Chiang Rai Rajabhat University (30 ก.ย. - 6 ต.ค. 2546)
- หัวข้อ Telecommunication Laws and Policies: โครงการ Modern Telecommunication Management
วิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับบริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
- หัวข้อ Mobile Marketing 2004: Mobile Solution for the Next Business Generation:
AR Seminar 2004 โดยนิตยสารบิสิเนสคอตคอม
- หัวข้อ Telecommunication Laws and Policies: โครงการ Team Synergy; TOT Corp, 2547
- การประกอบกิจการโทรคมนาคมของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย: 26 ก.ค. 2547 ณ. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กรุงเทพฯ
- งานสัมมนาประจำปี 2547 สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย; Marketing Forecast 2005 (Y-ME)
- ROCHE SCIENTIFIC DAY 2005 “เตรียมความพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง”: 20 ม.ค. 48, Grand Ballroom, Shangri-La Hotel
- การจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management):โครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้บริหาร มหาวิยาลัยมหิดล ครั้งที่ 1: ม.ค. - ก.พ. 48
- หัวข้อ กฎหมายระเบียบและนโยบายอุตสาหกรรมโทรคมนาคม (Telecommunication Industry Laws, Regulation, and Policy) โครงการพิเศษเพื่อศึกษาเกี่ยวกับการโทรคมนาคม ศูนย์การศึกษาต่อเนื่อง สำนักวิจัยและบริการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี, 8 ก.พ. 49
- งานสัมมนา “การตลาดยุคใหม่ Non-voice Marketing” มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย : 11 กพ.48
- หัวข้อ กฎหมายอิเลคทรอนิกส์ที่เกี่ยวกับงานด้านการสื่อสารการตลาด หลักสูตรปริญญาโท คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, 24 ก.พ. 48
- Mobile Marketing and Non-voice Marketing, Brandage หลักสูตร Pocket MBA in Marketing รุ่นที่ 4, ส.ค.-ก.ย. 2548- หัวข้อ Industry Overview and Telecommunications Applications และ Telecommunications Laws and Policies หลักสูตรการบริหารจัดการโทรคมนาคมสมัยใหม่ (Modern Telecommunication Management), 22 ธ.ค. 2548
- Special Lecture : Information Law and Technology Outlook, Modern Information Security Management (MISM) I, National ICT Learning Center, Central World Plaza, 23 August - 26 November 2005
- โครงการอบรมการป้องกันความปลอดภัยข้อมูลคอมพิวเตอร์ ครั้งที่ 5 The 5th Cyber Defense Initiative Conference: Best Practices for IT Security, 22-23 พ.ย. 48, Bangkok Convention Center : Central Ladprao
- หัวข้อการจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management):โครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้บริหาร มหาวิยาลัยมหิดล ครั้งที่ 2: 12 ม.ค. 49
- หัวข้อ กฎหมายระเบียบและนโยบายอุตสาหกรรมโทรคมนาคม (Telecommunication Industry Laws, Regulation, and Policy) หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตสาขาวิชาการจัดการธุรกิจโทรคมนาคมมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี, เทอม 1-2549
- Mobile Marketing and Non-voice Marketin, Brandage หลักสูตร Pocket MBA in Marketing รุ่นที่ 5, ม.ค.-ก.พ. 2549
- How wireless change the world?, Wireless Broadband Forum Thailand 2006, Mahisorn Hall, SCB Park, 23 ก.พ. 49
- Broadband and Wireless Broadband for Sale บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน), 27 และ 28 มี.ค. 49
- หัวข้อ Mobile Commerce ในรายการ E-LIFE E-BUSINESS หัวข้อ ” เคล็ดลับ…ธุรกิจออนไลน์ ” วันพุธที่ 26 กรกฎาคม 2549 ห้องนภาลัย โรงแรมดุสิตธานี
- หัวข้อพิเศษ Media Convergence หลักสูตร MBA เทอม 1-2549 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต
- หัวข้อพิเศษ Operational Risk Management หลักสูตร CEO MBA มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เทอม 2-2549
- หัวข้อพิเศษ Media Marketing and Advertising งานสัมนาทางวิชาการ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต 3 ก.พ. 2550
- Speaker and Chairperson หัวข้อ Business Issues facing CIOs/CTOs in 2007 & How those Concerns are Shaping IT Agendas ในการประชุมทางวิชาการ Conference on Strategic IT Planning&Measurement by Asia Business Forum (ABF) at Shangri-La Hotel, Bangkok, 12-13 Feb. 2007
- สัมมนาวิชาการ คณะนิเทศศาสตร์ เรื่อง “สื่อปฏิสัมพันธ์สู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค” มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ 3 ก.พ. 2550
- Broadband and Wireless Broadband for Sale บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน), 18 และ 23 พ.ค. 50
- หัวข้อ การสื่อสารการตลาดผ่านสื่อดิจิตัล หลักสูตรปริญญาโท คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซนท์จอน, 28 พ.ค. 50
- หัวข้อการจัดการองค์ความรู้ (Knowledge Management):โครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้บริหาร มหาวิทยาลัยมหิดล ครั้งที่ 3: 5 มิ.ย. 50
- หัวข้อพิเศษ Media Marketing and Advertising งานประชุมมหาวิทยาลัยสาขานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต ก.ค. 2550
- หัวข้อพิเศษ Operational Risk Management หลักสูตร CEO MBA มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เทอม 1-2550
- หัวข้อพิเศษ Media Marketing and Advertising หลักสูตร MBA เทอม 2-2550 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต

ประสบการณ์การสอน
BA วิชา New Media จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
BSEE วิชา Introduction to Electromagnetic, SIIT, Thammasat University
BSEE วิชา Principle of Digital, SIIT, Thammasat University
MBA วิชา Management Information Systems (MIS) มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
MBA วิชา Quantitative Analysis for Business มหาวิทยาลัยรังสิต
MBA วิชา Production Management มหาวิทยาลัยรังสิตMBA วิชา Telecommunication Management มหาวิทยาลัยรังสิต
MBA วิชา e-Commerce มหาวิทยาลัยรังสิต
MBA วิชา Internet Marketing มหาวิทยาลัยรังสิต
MBA วิชา Risk Management มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
MBA วิชา Management Information Systems (MIS) มหาวิทยาลัยนเรศวร
MBA วิชา Management Information Systems (MIS) มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขต กทม.
MBA วิชา e-Business มหาวิทยาลัยศรีปทุม
MM วิชา Management Information Systems (MIS) มหาวิทยาลัยมหิดล
MM วิชา Operations Management มหาวิทยาลัยรังสิต
MS in Renewable Energy วิชา Management Information Systems (MIS) มหาวิทยาลัยขอนแก่น
MS in CIS, MS in IEC วิชา Telecommunication มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
MS in CIS, MS in IEC วิชา Wireless Data Network มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
MS in ICT วิชา Telecommunication Management มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
MS in Technology Management วิชา R&D Management มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
MS in Technology Management วิชา Telecommunication Management มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
MS in Technology Management วิชา Telecommunication Industry มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
MSIT วิชา IT Infrastructure มหาวิทยาลัยรังสิต
MSIT วิชา Emerging Technology มหาวิทยาลัยรังสิต
MSIT วิชา R&D มหาวิทยาลัยรังสิต
MSIT วิชา Mobile Wireless Communication มหาวิทยาลัยรังสิต
MSITM วิชา Internet and Communication Technologies มหาวิทยาลัยรังสิต
MSITM วิชา Enterprise Information Security and Management มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
MSTCN วิชา Mobile Wireless Communication มหาวิทยาลัยรังสิต
MSTCN วิชา Advance in Telecommunication มหาวิทยาลัยรังสิต
MSTCN วิชา Optical Communication Systems มหาวิทยาลัยรังสิต
MS วิชา Data Communications and Computer Networks, Ramkhamhaeng University.
MA in CA วิชากฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต
MA in CA วิชาสัมมนาสื่อใหม่ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต
MA in CA วิชาสื่อสารผ่านสื่อใหม่ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต
Master of Marketing Communication, New Media, DPU and University of CanberraPh.D. in Communication Arts มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต
DBA in Marketing: Advance Statistics, Eastern Asia University.
DBA in Marketing: Research Methodology and Research Seminar, Eastern Asia University.
DBA in Marketing: Special topic in Marketing Information System, Eastern Asia University.
Ph.D. in CIS, CEM มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ